สิ่งสกัดเจียวกู่หลาน Gynostemma Extract

สิ่งสกัดเจียวกู่หลาน Gynostemma Extract
สิ่งสกัดเจียวกู่หลาน Gynostemma Extractสิ่งสกัดเจียวกู่หลาน Gynostemma Extract
รหัสสินค้า G133
หมวดหมู่ Dietary Supplement (ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร)
ราคา 910.00 บาท
น้ำหนัก 500 กรัม
สถานะสินค้า พร้อมส่ง
สภาพ สินค้าใหม่
ลงสินค้า 25 ก.พ. 2560
อัพเดทล่าสุด 19 ก.ค. 2566
คงเหลือ ไม่จำกัด
จำนวน
ถุง
หยิบลงตะกร้า
บัตรประชาชน
บุ๊คแบ๊งค์
คุ้มครองโดย LnwPay
“ปัญจขันธ์” หรือ “เจียวกู่หลาน” มีชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ Gynostemma pentaphyllum เป็นพืชล้มลุกชนิดเถา ลำต้นจะเลื้อยไปตามพื้นหรือสิ่งยึดเกาะ ใบแตกออกเป็น 5 แฉก ดอกเป็นช่อสีขาว ผลมีขนาดเล็กคล้ายพวงองุ่น ผลดิบจะมีสีเขียว แต่เมื่อสุกแล้วจะมีสีดำ
ปี 2543 กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับ คณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต ได้ทำการวิจัย พบว่า ปัญจขันธ์ มีสารต้านอนุมูลอิสระถึง 3 ชนิดด้วยกัน คือ เควอซิติน (Quercetin) เคมเฟอรอล (Kaempferol) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งสารเหล่านี้มีคุณสมบัติสำคัญต่อร่างกาย เช่น ลดระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด ยับยั้งการเกิดเซลล์มะเร็งเม็ดเลือด มะเร็งเต้านม มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งลำไส้ ลดความเสี่ยงในการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ หัวใจวายเฉียบพลัน รวมทั้งสามารถเสริมภูมิคุ้มกันและช่วยบำรุงร่างกายได้
สารสำคัญที่พบในปัญจขันธ์ คือ gypenosides เป็นสารประเภท triterpene saponins ซึ่งมีสูตรที่คล้ายคลึงกับ ginsenosides ที่พบได้ในโสม แต่ saponins ที่พบในปัญจขันธ์นั้นมีถึง 82 ชนิด ในขณะที่โสมจะมี saponins เพียง 24 ชนิดเท่านั้น ในจำนวนทั้งหมดนี้มี 4 ชนิดที่พบในปัญจขันธ์และโสมเหมือนกัน นั่นคือ จิปพิโนไซด์ ซาโปนิน ฟีนอล และแอนตี้ออกซิแดนท์ นอกจากนี้สถาบันวิจัยสมุนไพร กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้ศึกษาฤทธิ์ของสารสกัดปัญจขันธ์ พบว่าตัวยาที่สกัดได้แสดงฤทธิ์ยับยั้งเอนไซม์ HIV โพรทีเอสทำให้เชื้อไม่เพิ่มจำนวน เมื่อทดสอบกับสัตว์ทดลองไม่พบพิษเฉียบพลันและพิษเรื้อรัง และผลทดสอบในอาสาสมัครที่รับประทานสารสกัดปัญจขันธ์แบบแคปซูลก็มีความปลอดภัย ทางสถาบันวิจัยสมุนไพร จึงเตรียมนำปัญจขันธ์มาผลิตเป็นยาทดแทนการใช้ยาแผนปัจจุบันอีกด้วย
ประโยชน์ของเจียวกู่หลาน
เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน
Sriwanthana และคณะ (2005) ผลของสารสกัดจาก Gynostemma ต่อระบบภูมิกันและเซลล์ในระบบภูมิคุ้มกัน พบว่า สารสกัด Gynostemma ส่งผลต่อแอคทิวิตีของเซลล์เม็ดเลือดขาวกลุ่ม natural killer (NK) cell และมีการเพิ่มจำนวนของเซลล์ lymphocyte ซึ่งน่าจะเป็นผลจากสารกลุ่ม gypenoside และไม่เป็นพิษต่อร่างกายที่ความเข้มข้นสูงถึง 750 มก./กก./วัน
นอกจากนี้มีรายงานว่าสาร gynoside, saponins ที่ได้จากสารสกัด Gynostemma จะช่วยเพิ่มจำนวนเซลล์ T และ B lymphocyte และ interleukin-2 (IL-2) ในหนู (Li และ Xing, 1992) ทั้งนี้ยังมีงานวิจัยอีกหลายชิ้นที่ทำการทดลองทั้งในสัตว์และคนได้รายงานผลไปในทางเดียวกันว่า สารสกัด Gynostemma มีผลช่วยกระตุ้นและเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน
มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
งานวิจัยของ Wang และ Luo(2006) ได้ทำการศึกษาฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารพอลิแซคคาไรด์ที่สกัดจาก Gynostemma นำผ่านกระบวนการแยกด้วย column chromatography ได้เป็น 3 ส่วน และส่วนที่ไม่ได้ผ่านคอลัมน์พบว่า พอลิแซคคาไรด์ที่สกัดได้มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant) และมีประสิทธิภาพสูง
มีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (Antioxidant)
นอกจากนี้ Gynostemma ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระอีกถึง 3 ชนิดด้วยกัน คือ เควอซิติน (Quercetin) เคมเฟอรอล (Kaempferol) และโพลีฟีนอล (Polyphenols) ซึ่งจากสมบัติการมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพนี้ ส่งผลให้สารสกัดจาก Gynostemma ช่วยต้านการเกิดเซลล์มะเร็งอันมีสาเหตุมาจากสารอนุมูลอิสระและการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชั่นกับเซลล์ในร่างกาย
ป้องกันโรคแผลในกระเพาอาหาร
Rujjanawate และคณะ (2003) ทำการศึกษาผลของสารสกัด Gynostemma ในการป้องกันการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร ในหนู โดยพิจารณา mucus ผนังกระเพาะเป็นตัวบ่งชี้การหลั่ง mucus และพิจาณาปริมาณ mucosal hexosamine เป็นตัวบ่งชี้ การสังเคราะห์ mucus พบว่า กลุ่มทดลองที่ได้รับสารสกัดจาก Gynostemma มีปริมาณ gastric mucus และ hexosamine เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นสารสกัดจาก Gynostemma จึงสามารถป้องกันหรือรักษาโรคแผลในกระเพาะอาหารได้โดยช่วยควบคุมให้การสร้างและหลั่ง mucus ที่เคลือบกระเพาะอาหารเพื่องป้องกันน้ำย่อยอยู่ในภาะวะสมดุล
โรคหลอดเลือดและหัวใจ
แม้ผลการวิจัยอาจยังไม่แน่ชัดนัก แต่มีงานวิจัยหลายชิ้นที่ได้ตีพิมพ์เกี่ยวการศึกษาผลของสารสกัด Gynostemma ต่อหลอดเลือดและหัวใจโดยทำการทดลองในสัตว์ทดลอง พบว่า Gypenoside ยับยั้งการตกตะกอนของเกล็ดเลือดได้(Wu และคณะ ,1990) และลดอัตราการเต้นหัวใจ ช่วยขยายหลอดเลือดและลดความดัน (Li และคณะ ,1990) อีกทั้งช่วยเพิ่มความแข็งแรงกับหลอดเลือด ทำให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้น(Chen และคณะ, 1990)
โรคเบาหวาน
Huyen และคณะ (2010) ทำการวิจัยในผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่ 2 จำนวน 24 คน โดยสุ่มแบ่งเป็นกลุ่มที่ให้ยาหลอกและ Gynostemma โดยให้วันละ 12 กรัมเป็นเวลา 12 สัปดาห์ทั้งนี้มีการเก็บข้อมูลการควบคุมอาหารและออกกำลังกาย ตรวจวัดระดับน้ำตาลกลูโคสในเลือด, อินซูลิน, glycosylated hemoglobin(HbA1C) ก่อนและหลังการทดลองพบว่าระดับน้ำตาลในเลือดลดลง 3.0±1.8mmol/l ในขณะที่กลุ่มที่ได้รับยาหลอกลดลง 0.6±2.2mmol/l ระดับ HbA1C ลดลง 2% กลุ่มที่ได้รับยาหลอกลดลง 0.2% นอกจากนี้ยังพบว่าภายหลัง 12 สัปดาห์ในกลุ่มที่ได้รับ Gynostemma มีความต้านทานอินซูลินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยไม่ส่งผลข้างเคียงใดๆต่อร่างกาย
ปริมาณที่แนะนำ 60-180 มิลลิกรัมต่อวัน

Application: 
Anti oxidant ลดการอักเสบ ลดจุดด่างดำ

อายุการจัดเก็บ: 2 ปี

วิธีการชำระเงิน

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) สาขาย่อยซอยลาซาล ออมทรัพย์

หมวดหมู่สินค้า

ระบบสมาชิก

สถิติร้านค้า

หน้าที่เข้าชม181,991 ครั้ง
ผู้ชมทั้งหมด123,837 ครั้ง
เปิดร้าน14 ธ.ค. 2559
ร้านค้าอัพเดท3 ต.ค. 2568

ติดต่อเรา

รายการสั่งซื้อของฉัน
เข้าสู่ระบบด้วย
เข้าสู่ระบบ
สมัครสมาชิก

ยังไม่มีบัญชีเทพ สร้างบัญชีใหม่ ไม่มีค่าใช้จ่าย
สมัครสมาชิก (ฟรี)
รายการสั่งซื้อของฉัน
ข้อมูลร้านค้านี้
ร้านThai Food and Chemical Co.,Ltd.
Thai Food and Chemical Co.,Ltd.
ผู้นำเข้าและจำหน่ายเคมีอาหาร รับจ้างผลิตOEM/รับจ้างวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ด้วยมาตรฐาน GMP/HACCP
เบอร์โทร : 063-9238250,086-3429175
อีเมล : saletfac.chem@gmail.com
ส่งข้อความติดต่อร้าน
เกี่ยวกับร้านค้านี้
สินค้าที่ดูล่าสุด
ดูสินค้าทั้งหมดในร้าน
สินค้าที่ดูล่าสุด
บันทึกเป็นร้านโปรด
Join เป็นสมาชิกร้าน
แชร์หน้านี้
แชร์หน้านี้

TOP เลื่อนขึ้นบนสุด
พูดคุย-สอบถาม